ส่วนผสม
แป้งเท้ายายม่อม ๑ ถ้วยตวง
แป้งมัน ๑ ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำกะทิ ๓ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๒ ถ้วยตวง
น้ำเปล่า ๑ ถ้วยตวง
น้ำใบเตย ๒ ช้อนโต๊ะ
สีผสมขนมตามชอบสีละ ๑-๒ หยด
วิธีทำ
๑. ร่อนแป้งทั้ง ๓ ชนิดรวมกัน อย่างน้อย ๒ ครั้ง
๒. นวดแป้งกับกะทิจนแป้งเนียนเหนียวนุ่ม ใช้เวลานวดประมาณ ๒๕ นาที พักไว้
๓. เตรียมนํ้าเชื่อมโดยใช้น้ำตาลทรายและนํ้าเปล่า หรือนํ้าต้มใบเตยตามส่วน ตั้งไฟให้เดือด กรองด้วยผ้ากรอง พักไว้ให้อุ่น แล้วเทใส่ส่วนผสมแป้งในข้อ ๒ คนให้เข้ากัน
๔. แบ่งส่วนผสมแป้งเป็น ๒ ส่วน ส่วนที่ ๑ ไม่ต้อง ใส่สี ส่วนที่ ๒ ใส่นํ้าใบเตยหรือสีตามต้องการ
๕. นึ่งพิมพ์ขนมให้ร้อน ตักขนมหยอดทีละชั้น แล้วนึ่งใช้เวลา ๗-๘ นาที แล้วจึงหยอดชั้นต่อไป ทำสลับสีจนหมด ชั้นสุดท้ายต้องเป็นแป้งสี และควรเพิ่มสีให้เข้มข้น จนมองดูงามน่ากินยิ่งขึ้น
๖. เมื่อหมดแป้งแล้วจะนึ่งชั้นบน สุกดีแล้วควรยกถาดขนมออกจากลังถึง วางผึ่งไว้ให้เย็นสนิทดีเสียก่อน ประมาณ ๓-๔ ชั่วโมง จึงตัดเป็นรูปร่างต่างๆ ตามชอบ
สูตรนี้สามารถทำขนมรับประทานไต้ ๘-๑๐ คน
เทคนิคการประกอบ
๑. บางท่านชอบกลิ่นและรสของนํ้าตาลโตนด น้ำตาลอ้อย ก็สามารถใช้แทนนํ้าตาลทรายได้ ซึ่งจะได้ขนมที่มีกลิ่นหอม และสีแตกต่างไปจากนํ้าตาลทราย
๒. การหยอดขนมในแต่ละชั้น นอกจากต้องใช้แป้งปริมาณเท่าๆ กันแล้ว ยังต้องหยอดขณะที่ถาดนึ่งอยู่ในลังถึงซึ่งตั้งอยู่บนเตา ขณะที่นํ้าในลังถึงเดือดพล่านอยู่ด้วย
๓. ก่อนตักแป้งหยอดแต่ละครั้ง ให้คนให้แป้งกระจายตัวดีเสียก่อน จึงตักหยอด
๔. ทำเป็นดอกกุหลาบโดยการม้วน ให้ตัดแต่ละชั้นของแป้ง ๑ ดอก ต่อ ๑ สี
ลักษณะที่ดีของขนม ขนมชั้นสีหวาน ควรมีสีอ่อน สวยงาม ผิวหน้ามันจากกะทิ เนื้อขนมชั้นจะเหนียวนุ่ม แต่ละชั้นจะติดกัน แต่สามารถลอกเป็นชั้นๆ ได้รสหวานอ่อนๆ มีกลิ่นหอมจากใบเตยหรือกลิ่นนํ้าดอกมะลิ ผสมกับกลิ่นหอมของกะทิสด