วิธีการใหม่ในการควบคุมปริมาณการกิน

นักวิจัยบอกว่าพบวิธีการใหม่ในการควบคุมปริมาณการกินของคนเรา หากลองมาใช้ส้อมที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม

ผลการวิจัยหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมานั้น ต่างมุ่งเน้นไปที่สัดส่วนปริมาณการบริโภคของคนเรา รวมถึงอิทธิพลที่มีผลต่อการกินของคนเรา อย่างที่เรียกขานกันว่า You are what you eat “กินอย่างไรก็ได้อย่างนั้น” แต่การวิจัยของ อรุล กับ ไฮมานชู มิชารา และทามารามาสเตอร์ส เน้นไปที่ขนาดของคำที่เรากินเข้าไปแล้วมีผลต่อระบบการย่อยอาหาร

ว่าแล้วก็จัดการวิจัยด้วยการดัดแปลงแก้ไขขนาดของส้อมสำหรับการรับประทานอาหารเรียกว่า “ส้อมใหญ่” สามารถจิ้มตักอาหารเข้าปากได้มากกว่า 20℅ เมื่อเทียบกับส้อมปกติที่เราใช้รับประทานในร้านอาหาร และอีกอันก็เรียกว่า “ส้อมเล็ก” ซึ่งสามารถจิ้มตักอาหารน้อยลงกว่าปกติ 20℅

ใช้กลุ่มทดลองในร้านอาหาร แบ่งเป็น 2 โต๊ะสำหรับมื้อกลางวัน และอีก 2 โต๊ะสำหรับมื้อค่ำ แต่ละโต๊ะมีทั้งส้อมเล็กและส้อมใหญ่เสิร์ฟอาหารที่เสิร์ฟก็เป็นอาหารตามที่นักวิจัยกำหนด 1 จาน อาหารตามสั่งของลูกค้า 1 จาน และแน่นอน “จัดเต็ม” เรียกมาเต็มจานเลยทีเดียว ก่อนเสิร์ฟถึงโต๊ะลูกค้า ในแต่ละจานจะมีกระดาษข้อความขนาดเล็กแปะติดไว้ใต้จาน บอกปริมาณน้ำหนักและข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับอาหารจานนั้น เมื่อเสร็จสิ้นการรับประทาน อาหารแต่ละจานจะถูกนำกลับมาที่ครัว จัดการชั่งน้ำหนักอีกครั้ง

ข้อมูลวิจัยที่ได้นี้ระบุว่า คนที่มารับประทานอาหาร หากใช้ส้อมใหญ่จะกินอาหารได้น้อยกว่าคนที่ใช้ส้อมเล็ก แต่นี่เป็นเฉพาะในร้านอาหารเท่านั้น แต่หากเป็นการรับประทานในห้องทดลอง ซึ่งใช้อาหารอิตาเลียน คนที่ใช้ส้อมใหญ่กลับกินได้มากกว่า

ผลวิจัยนี้ได้นำออกเผยแพร่ทางวารสารการวิจัยผู้บริโภค ระบุสาเหตุในประการหลังว่าเป็นเพราะเหตุจูงใจมากกว่าว่า รับประทานอาหารใน

ร้านอาหารหรือในห้องทดลอง เพราะถ้าอยู่ในร้านอาหาร ผู้บริโภคมีจุดหมายแน่ชัดแล้วว่าต้องมารับประทานอาหารบรรเทาความหิว ผิดกับในห้องทดลอง เมื่อผู้บริโภครู้อยู่แล้วว่า นี่เป้นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จึงมีเหตุจูงใจที่ต่างกัน

คนที่ไปกินข้าวตามร้านอาหารจะรู้สึกว่าส้อมเล็กไม่ได้ทำให้พวกเขาบรรลุตามจุดหมายที่ต้องการกินบรรเทาความหิว ผลจึงออกมาว่าจะกินอาหารในจานได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับคนที่ใช้ส้อมใหญ่ แต่คำสอนของปู่ย่าตายายตั้งแต่อดีตที่พร่ำสอนให้เคี้ยวอาหารแต่คำน้อย เคี้ยวให้ละเอียด เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลารับรู้เมื่อถึงเวลาอิ่มหรือพอแล้ว

แต่ที่น่ากลับสำหรับคนกลัวอ้วนอีกอย่างคือ งานวิจัยที่ระบุว่า 1 ใน 5 ของอาหารที่เสิร์ฟตามร้านอาหารในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น มีแคลอรี่มากกว่า 100 แคลอรี่ตามที่ระบุไว้ในโฆษณา ซึ่งหากคุณกินเข้าไปอย่างนี้เป็นประจำ จะทำให้น้ำหนักขึ้นถึง 15 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 1 ปีเท่านั้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

five × three =