Author Archive
My Security Shield คือ โปรแกรมที่ปลอมเป็นโปรแกรมแอนตี้ไวรัส ซึ่งคุณอาจได้มาจากการสแกนไวรัสออนไลน์ในเว็บใดเว็บหนึ่ง ซึ่งผลในการแสกนอาจหลอกว่าเครื่องของคุณติดไวรัส และแนะนำให้คุณโหลดโปรแกรมมาลงเครื่อง แท้จริงแล้วเจ้าตัวโปรแกรมนี้เป็นอันตราย หลังจากที่โปรแกม My Security Shield ถูกติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ มันจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ โดยสร้างไฟล์จำนวนมากขึ้นมา และแจ้งให้คุณทราบว่าเครื่องคอมเตอร์ของคุณติดไวรัส หากต้องการลบก็ต้องจ่ายเงินในการซื้อโปรแกรม โปรแกรมนี้จะคอยเตือนอยู่ตลอดว่าเครื่องของคุณอยู่ในสภาพอันตราย จนคุณไม่สามารถเปิดโปรแกรมหลายๆโปรแกรมได้ วิธีในการลบโปรแกรม My Security Shield 1. บางที ผลของโปรแกรมนี้ทำให้คุณไม่สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมใดๆได้ ซึ่งถ้าเป็นดังนั้นคุณจะต้องใช้เครื่องอื่นดาวน์โหลด แล้วนำไฟล์มาใช้ในเครื่องที่มีปัญหาจากโปรแกรมนี้ 2. โปรแกรมนี้จะบังคับไม่ให้คุณเปิดโปรแกรมหลายๆอย่างได้ สิ่งแรกที่ทำคือ หยุดการทำงานของโปรแกรม My Security Shield เสียก่อน ด้วยการดาวน์โหลดโปรแกรม iExplore.exe Download Link เมื่อโหลดโปรแกรมเสร็จแล้วให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กเพื่อเปิดโปรแกรม โปรแกรมนี้จะหยุดการทำงานของ My Security Shield จำไว้ว่าอย่ารีสตาร์ทเครื่อง เพราะการทำงานของโปรแกรม iExplore.exe จะหยุดทำงาน และ My Security Shield จะกลับมาเหมือนเดิม…
ที่คาดผมสวยๆ เป็นอีกหนึ่งในเครื่องประดับตกแต่งของสาวๆหลายคน ที่ช่วยเพิ่มความน่ารัก สดใส ให้กับผู้สวมใส่ได้ วันนี้เรามาดูวิธีทำที่คาดผมดอกไม้กัน วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำที่คาดผมดอกไม้ มีดังนี้ 1. ปืนกาว 2. ดอกไม้ปลอม 3. เศษผ้า 4. กรรไกร 5. ที่คาดผม ขั้นตอนในการทำ เริ่มจากนำดอกไม้ปลอมที่ซื้อมา ถอดส่วนที่เป็นก้านออก ตัดตกแต่งให้เรียบร้อย ให้เหลือเฉพาะส่วนที่เป็นดอกไม้ จากนั้นให้ไปที่กระจก ลองสวมที่คาดผมและเอาดอกไม้ทาบดูว่า ควรติดดอกไม้ที่ตำแหน่งไหนของทีึ่คาดผม เพื่อให้ได้ที่คาดผมดอกไม้ซึ่งสวยดังใจคุณต้องการ เมื่อทาบดอกไม้จนกระทั่งได้ตำแหน่งที่ต้องการแล้ว ให้เอามือกดที่ตำแหน่งซึ่งต้องการบนที่คาดผมแล้วถอดที่คาดผมออกมา ติดดอก ณ ตำแหน่งที่ต้องการกับที่คาดผม ด้วยปืนกาว ตัดเศษผ้าเป็นรูปวงกลม แล้วนำไปปิดบริเวณที่ดอกไม้ติดกับที่คาดผม ด้วยปืนกาว เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ไม่ให้ดอกไม้หลุดง่าย ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ที่คาดผมดอกไม้ ที่ทำขึ้นมาเอง ทั้งสวยงามและทั้งน่าภูมิใจ
กระป๋องน้ำอัดลมที่ไม่ได้ใช้แล้ว สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ด้วยการนำมาทำเป็นถาดใส่ของเล็กๆได้ ซึ่งนี่เป็นอีกวิธีในการรีไซเคิลสิ่งของไม่ใช้แล้วให้เกิดประโยชน์ วัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ มีดังนี้ 1. กระป๋องน้ำอัดลม 2. กรรไกร หรือ มีดคัตเตอร์ (เลือกที่มีความแข็งแรง สามารถตัดกระป๋องได้) 3. ปากกา ขั้นตอนการทำมีดังนี้ ดื่มน้ำ หรือ เทน้ำ ในกระป๋องออกให้หมดก่อน คุณควรระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย เนื่องจากกระป๋องมีความคม อาจบาดมือคุณได้ ดังนั้นถ้ามีถุงมือหนัง แนะนำให้หามาสวมไว้ด้วย ให้คุณใช้กรรไกร หรือ คัตเตอร์ ตัดกระป๋องด้านบนออก เมื่อตัดบริเวณด้านบนของกระป๋องออกแล้ว ให้คุณใช้ปากกาทำเครื่องหมายที่บริเวณก้นกระป๋อง เพื่อที่จะให้ได้ความลึกของถาดที่ทำออกมาตามที่คุณต้องการ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเส้นของปากกาที่ทำเป็นเครื่องหมายไว้ เพราะเมื่อทำเสร็จแล้ว คุณจะไม่สามารถมองเห็นรอยดังกล่าว ตัดกระป๋องตามแนวตั้ง จากด้านบนลงมาถึงด้านล่างที่ทำเครื่องหมายไว้ ให้ตัดแบบนี้รอบกระป๋อง โดยให้แต่ละแถบห่างกันประมาณ 1 นิ้ว หลังจากตัดกระป๋องตามขั้นตอนด้านบนเสร็จแล้ว ให้ดึงแต่ละแถบลงมา (ดูรูปด้านล่าง) จากนั้นให้คว่ำกระป๋องลง แล้วสอดแถบกระป๋องอันหนึ่งเข้าไปใต้อีกอัน แล้วพับให้ได้ดังภาพด้านล่าง จากนั้นให้พับแถบต่อไปแบบเดียวกัน (ดูจากภาพ) ทำแบบเดียวกันนี้กับแถบอื่นๆ รอบกระป๋อง เเมื่อถึงแถบที่อยู่ก่อนแถบสุดท้าย ให้ม้วนแถบดังกล่าวตามภาพ…
1. ปล่อยให้ความรักเดินทางมาหาคุณเอง ยิ่งเร่งเร้า เร่งรีบ โหยหา ความรักก็จะวิ่งหนี 2. อย่าพยายามทำให้คนอื่นรักเรา โดยการปรับปรุงตัวเองแบบฝืนความรู้สึก จนกระทั่งลืมความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเราไป เพราะการที่เราปรุงแต่งตัวเองขึ้นมา สุดท้ายก็ต้องเฉลย และกลับสู่สภาพตัวเองที่เป็นอยู่ ฉะนั้นควรจะรักคนที่รักและชอบในตัวตนจริงๆของเรา จะดีที่สุด 3. ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ แต่ศักดิ์ศรี คือ การดำรงตัวตนของตัวเอง หากเราไม่มีศักดิ์ศรีในตัวเอง อย่าทำลายหรือลดศักดิ์ศรีลงจนไม่เหลืออะไรเลย แล้วใครจะมาสนใจคนไม่มีศักดิ์ศรีอย่างคุณ กระทั่งตัวคุณเองจะยอมรับตัวคุณเองได้หรือไม่ 4. ควรใส่ใจดูแลตัวเองให้ดูดีเสมอ ทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะความผ่องใสจากภายในจะส่งผลสู่ภายนอก ช่วยให้ชวนมอง จนใครๆก็อยากเข้าใกล้คุณโดยอัตโนมัติ 5. อย่าตั้งกฏคนที่จะมาเป็นคู่รักมากเกินไป เพราะอันนั้นไม่ใช่คู่รักที่เกิดจากความรักแต่เป็นคู่รักเพื่อความเหมาะสมทางสังคมมากกว่า ซึ่งเมื่อคบกันไป อาจจะไปไม่รอด หรือดีไม่ดี อาจจะไม่มีคู่รักที่คุณตั้งกฏไว้ โผล่เข้ามาในชีวิตเลยก็ได้ ฉะนั้น ลดๆ กฏเกณฑ์หรือมาตรฐานคู่รักลงมาบ้าง คนรักที่แสนดีอาจรออยู่ข้างหน้าแล้วก็ได้
ฝน เหมือนเป็นศัตรูตัวร้ายของการซักผ้า เริ่มตั้งแต่เป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เราอยากซักผ้า ผัดผ่อนวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งหลีกลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องซักจริงๆ ปริมาณผ้าก็เยอะจนแทบไม่มีที่จะตากผ้า กว่้าจะแห้งก็ใช้เวลาหลายวัน แห้งแล้วก็เหม็นอับอีก เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น เรามาดูวิธีซักผ้าในหน้าฝนด้วยกัน 1. ซักผ้าในปริมาณน้อย ไม่ควรเก็บไว้หลายวันเพราะผ้าจะเยอะจนเวลาตาก ต้องแขวนเบียดกัน จะยิ่งทำให้ผ้าแห้งช้า และเหม็นอับ 2. แช่ผ้าในน้ำที่ผ่านการแกว่งสารส้มไว้คืนหนึ่งก่อนซัก ตำราโบราณบอกว่าจะช่วยให้ผ้าไม่เหม็นอับได้ดีนัก 3. หากไม่คิดว่าต้องซักผ้าแบบที่มีฟองเยอะๆ ลองใช้โซเดียมไบคาร์บอเนตหรือเบกกิ้งโซดา หรือที่เรียกว่าผงฟู แทนผงซักฟอกก็ช่วยป้องกันกลิ่นอับได้เช่นกัน 4. หลีกเลี่ยงการตากผ้าในห้องน้ำเพราะความชื้นสูง ผ้าอาจมีเชื้อราได้ 5. ตากผ้าห่างๆกัน เพื่อให้ลมพัดผ่านได้เต็มที่ ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น 6. ควรรีดผ้าทุกชิ้นที่รีดได้ เพราะความร้อนจะช่วยทำลายเชื้อราและความชื่้นที่ค้างอยู่ในผ้าได้ดี
สำหรับท่านที่ทำงานซึ่งต้องใช้สายตามาก เช่น นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน นอกจากที่ควรหมั่นพักผ่อนสายตาเป็นระยะๆเช่นทุก 15-30 นาทีแล้ว ก็ควรออกกำลังกล้ามเนื้อตาด้วยทุกๆเช้า เพื่อให้ดวงตามีสุขภาพที่ดี ขั้นตอนการออกกำลังกล้ามเนื้อตา ทำได้ดังนี้ นั่งตัวตรงมองไปยังจุดไกลสุด จากนั้นถือปากกาให้อยู่ระดับสายตา ยื่นออกไปสุดแขน โดยจ้องที่ปลายปากกา จากนั้นค่อยๆเลื่อนปากกาเข้าหาตาช้าๆมองปลายปากกาไว้ แล้วเลื่อนเข้ามาใกล้ตาที่สุดเท่าที่ยังสามารถมองเห็นภาพได้ หยุดมองปากกาที่ระยะนี้สักพัก แล้วค่อยๆเลื่อนปากกาออก มองปลายปากกาให้ชัดตลอด หยุดมองปลายปากกาในระยะไกลอีกครั้ง ทำซ้ำอย่างน้อย 10 ครั้ง แนะนำว่าให้ออกกำลังกล้ามเนื้อตาในช่วงเช้า ไม่ควรทำในขณะที่รู้สึกเมื่อยล้าดวงตา เพราะจะทำให้ปวดตาได้ การออกกำลังกล้ามเนื้อตาอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรง ไม่เกิดอาการตาล้าได้ง่ายนัก
การจำแนกดูว่าอาหารเน่าเสีย หรือ เปลี่ยนคุณภาพหรือไม่ ทำได้ 3 วิธี คือ ใช้อวัยวะรับสัมผัส อันได้แก่ ตาจมูก ลิ้น และ มือ ตรวจสอบอาหาร ต่อมาคือ การใช้วิธีวิเคราะห์ทางเคมี และวิธีที่สามตรวจด้วยการเพาะเชื้อแบคทีเรีย การเลือกซื้อเนื้อหมูในตลาด ไม่จำเป็นถึงขนาดที่เราจะต้องใช้วิธีวิเคราะห์ทางเคมี หรือ เพาะแบคทีเรีย เพียงแค่ใช้ อวัยวะรับสัมผัส เราก็สามารถที่จะเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีคุณภาพได้แล้ว ดังนี้ เนื้อหมูสดจะมีสีแดง เป็นเงา ไขมันขาวใส ลักษณะภายนอกดูชุ่มชื้น ไม่มีน้ำเหนียวติดมือ เมื่อใช้นิ้วกด รอยบุ๋มที่เกิดขึ้นจะกลับคืนรูปร่างเดิมทันที กลิ่นเนื้อสด หากเนื้อหมูไม่สดจะมีสีแดงคล้ำ ไขมันกลายเป็นสีเหลือง ผิวนอกมีน้ำเหนียวจับแล้วติดมือ รอยบุ๋มจากการกดไม่คืนรูป มีกลิ่นเปรี้ยว นอกจากนี้หมูที่มีรูขุมขนเล็กละเอียด จะเป็นหมูที่มีอายุน้อย พวกรูขนหยาบจะเป็นหมูที่มีอายุมาก หวังว่าทุกท่านที่อ่านบทความนี้แล้ว คงจะสามารถเลือกซื้อเนื้อหมูที่มีคุณภาพดี สดใหม่ ได้แล้ว เพราะไม่ว่าท่านจะซื้อไปทำอาหารรับประทานเองภายในครอบครัว หรือซื้อเนื้อหมู ไปทำอาหารขาย หากท่านเลือกเนื้อหมูที่มีคุณภาพดี ก็จะทำให้อาหารอร่อย ดีต่อสุขภาพอนามัย ของผู้รับประทาน
ส่วนผสม 1. กุ้งขาวปอก 200 กรัม 2. รากผักชี 2 ราก 3. กระเทียม 3 หัว 4. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา 5. มันหมูบด 60 กรัม 6. ตะไคร้สดสับละเอียด 1 ท่อน 7. เกล็ดขนมปังป่น 1 ถ้วย 8. น้ำมันพืชสำหรับทอด 4 ถ้วย เกลือและพริกไทยป่น วิธีทำ 1. นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย ตะไคร้สด สับและโขลกให้เข้ากันจนละเอียด 2. กุ้งขาวแกะเปลือก ผ่าหลัง สับละเอียด ผสมมันหมูสับละเอียด ตีให้เข้ากันจนเหนียว 3. นำส่วนผสมทั้งหมดมาปรุงีสด้วยเกลือและพริกไทย นวดต่อให้เข้ากัน 4. ปั้นเป็นก้อน หรือนำไปเสียบกับก้านตะไคร้สด แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปัง 5….
ไข่ไก่นั้นมีสารโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ นับเป็นอาหารบำรุงที่คุณค่าสูงแต่ราคาถูก สำหรับวิธีการในการเลือกซื้อไข่ไก่ที่ใหม่สด เราพิจารณาได้ ด้วย 4 วิธีดังต่อไปนี้ 1. ดูเปลือกไข่ ผิวนอกของเปลือกไข่ไก่ที่สดจะมีผงแป้งฉาบติดอยู่ จับลูบดูแล้วจะรู้สึกเนียนมือ เปลือกไข่จะต้องดูสะอาดไม่มีรอยสกปรก ส่วนไข่ไก่ที่เก่าเปลือกจะลื่นมัน และไข่ที่เน่าแล้วจะมีจุดดำๆเทาๆ อยู่บนเปลือก ซึ่งดูแล้วมีสีดำคล้ำๆ 2. ส่องดูกับแสงแดด เมื่อนำไข่ไก่ยกส่องดูกับแสงแดด ไข่ไก่ที่สดจะออกสีแดงเล็กน้อย มีลักษณะโปร่งแสง เห็นขอบเขตของไข่แดงชัดเจน แต่ไข่ที่เสียแล้ว จะดูทึบแสงหรือเห็นเป็นจุดเงาดำ 3. ส่องดูกับแสงไฟ เมื่อเอาไข่ไก่ ยกขึ้นส่องกับแสงไฟ ไข่ไก่ที่สดกว่าจะดูโปร่งแสงมาก เห็นขอบเขตไข่ขาวและไข่แดงออกจากกันได้ชัดเจน ตรงปลายจะมีโพรงอากาศเล็กๆอยู่ ไข่ที่เน่าเสียจะเห็นจุดดำ หรือเปลี่ยนกลายเป็นสีดำทึบทั่วทั้งฟองและไข่แดงก็กระจายออกไป 4. ฟังเสียง เมื่อเขย่าไข่เบาๆ แล้วฟังเสียง ถ้าเป็นไข่สดจะได้ยินเสียงดังทึบๆ ไข่ไก่เก่าจะมีีเสียงดังก้องๆ ไข่ที่มีรอยแตกจะได้ยินเสียงเหมือนเศษกระเบื้อง หวังว่าทั้งสี่ขั้นตอน คงช่วยให้ทุกท่านเลือกไข่ไก่ที่มีคุณภาพได้
เมื่อต้องการทราบว่าไข่ที่มี เป็นไข่ที่ดี หรือไข่ที่เสีย ให้ทดสอบด้วยการนำไข่ไปแช่ในน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 10% จะพบว่าถ้าเป็นไข่ไก่สด มันจะจมอยู่กับภาชนะ ไข่ที่เก่าจะลอยอยู่ใต้น้ำโดยไม่จมลงไปข้างล่าง ส่วนไข่เน่าจะลอยปริ่มอยู่ที่ผิวน้ำ แต่วิธีทดสอบแบบนี้เหมาะที่จะทำภายในบ้านเท่านั้น เมื่อจำเป็นต้องปรุงอาหารประเภทไข่อย่างพิถีพิถันบางอย่าง การทดสอบเช่นนี้จะช่วยให้เราเลือกไข่ไก่ที่ดีได้