วิธีดื่มฉลองที่ดีต่อสุขภาพและถูกกฎหมาย

การเลี้ยงฉลองก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานครื้นเครง  ซึ่งสิ่งที่เรามักจะขาดไม่ได้ก็คือการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มสีสันให้งานเลี้ยง  แต่จะดื่มกันอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต

ทั้งนี้ นายแพทย์แท้จริง  ศิริพานิช  เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แนะนำว่า การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเฉลิมฉลองเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่เราจะดื่มอย่างไรเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิต รวมทั้งถูกต้องตามกฎหมายและสุดท้ายดีต่อสุขภาพนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญ  ซึ่งเรามีตารางเปรียบเทียบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกับโอกาสเกิดอุบัติเหตุจราจรไว้ดังนี้ คือ หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราคือใกล้เคียงกับคนที่ไม่ดื่มสุรา แต่หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 2 เท่า

หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 3 เท่า หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 6 เท่า  หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 40 เท่า และหากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด มากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 500 เท่า

ดังนั้นเราจะสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้แค่ไหนก่อนที่จะขับรถ คือใน 1 ชั่วโมงก่อนขับรถหากเราหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ จึงไม่ควรดื่มเกินกว่านี้ ได้แก่ สุรา 6 แก้ว ผสมสุราแก้วละ 1 ฝา (ฝาขวดสุรา) ไลท์เบียร์ 4 กระป๋อง หรือ 4 ขวดเล็ก เบียร์ปกติ 2 กระป๋อง หรือ 2 ขวดเล็ก ไวน์ 2 แก้ว (แก้วละ 80 ซีซี) และสำหรับชั่วโมงต่อไป เราจะดื่มอีก ก็สามารถดื่มได้เพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เท่านั้น หากดื่มในปริมาณมากกว่านี้จะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนดคือมากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

สำหรับการดื่มแอลกอฮอล์จำนวนเท่าใดจึงจะดีต่อสุขภาพนั้นในต่างประเทศ ได้ทำการวิจัยแนะนำไว้ว่าไม่ควรดื่มเบียร์เกินวันละ 2 กระป๋อง ใน 1 อาทิตย์และต้องพักจากการดื่ม 2 วัน สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีการแนะนำเช่นนี้อย่างชัดเจน และมีการรณรงค์ให้ไม่ดื่มดีที่สุด แต่ในช่วงเทศกาลนี้หากเราปฏิบัติตามคำแนะนำในการดื่มแอลกอฮอล์ข้างต้นนอกจากจะทำให้เราไม่เมาถึงขั้นประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตหรือหากถูกตรวจระดับแอลกอฮอล์ก็ไม่ผิดกฎหมายแล้วที่สำคัญเชื่อว่ายังดีต่อสุขภาพด้วย  เนื่องจากถ้าเราดื่มในปริมาณที่แนะนำไปก็จะสามารถตื่นขึ้นมาประกอบกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกในช่วงเช้า โดยที่ไม่เจ็บป่วยหรือตื่นไม่ไหวเนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์แบบไร้ขีดจำกัดหรือที่เราเรียกว่า เมาแฮงก์ หรือ เมาค้าง

หากใครดื่มแอลกอฮอล์ก็อย่าขับรถเลยจะดีที่สุด รวมทั้งพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทางจะได้สนุก ปลอดภัย สุขภาพดีกันถ้วนหน้า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

fourteen − 10 =