Archive For The “บ้าน และ สวน” Category
หากจะว่ากันไปแล้วการรีดผ้านั้นก็ไม่ได้ยาก หลายๆคนรัดผ้ากันได้ แต่สิ่งที่ยากคือรีดอย่างไรให้ดูผ้าเรียบ เสื้อผ้าชิ้นไหนที่ต้องการรีด ควรนำมาพรมน้ำก่อน เนื่องจากความชื้นจะทำให้เส้นใยอ่อนตัว เมื่อถูกความร้อนจะทำให้ผ้าเรียบ ควรปรับอุณหภูมิเตารีดให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า ก่อนการรีดผ้า เช่น ผ้าไหม ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย ควรใช้ความร้อนปานกลาง แต่หากเป็นผ้าใยสังเคราะห์ควรรีดด้วยความร้อนต่ำ เป็นต้น ในการรีดผ้าสี ควรรีดด้านใน เพื่อป้องกันผ้าสีซีดหรือเก่าเร็ว ผ้าชนิดใดที่รีดด้านในแล้วผ้าเรียบถึงด้านนอก ก็ควรรีดด้านใน เพราะจะทำให้สีผ้าไม่ซีดเร็ว ผ้าบางชนิดเมื่อรีดด้านนอกบ่อย ๆ ความร้อนจากเตารีดจะทำให้เกิดความมันเป็นแนวตามรอยตะเข็บ ดูไม่สวยงาม ส่วนการรีดผ้าขนสัตว์ ผ้าสักราด หรือเสื้อที่ทำด้วยไหมพรม ควรใช้ผ้าขาวปิดทับ เช่น ผ้ามัสลิน ผ้าสาลู ถ้าใช้เตารีดแบบธรรมดา ให้นำผ้าขาวไปชุบน้ำบิดหมาดแล้วนำมาปิดทับด้านบน จากนั้นใช้เตารีดที่มีความร้อน รีดโดยกดทับ ถ้ารีดด้วยวิธีไถไปมาจะทำให้ผ้าเสียรูปทรง แต่ถ้าเป็นเตารีดไอน้ำให้ใช้ผ้าขาวปิดทับโดยไม่ต้องชุปน้ำ และเมื่อทำการรีดให้พ่นไอน้ำผ่านจะทำให้ผ้าเรียบ สำหรับการรีดผ้าที่ถูกวิธีให้รีดตามลำดับ ดังนี้ ‘เสื้อ’ ควรรีดปก ตะเข็บ ตัวเสื้อด้านหน้า ตัวเสื้อด้านหลัง และแขนเสื้อ ตามลำดับ, ‘กางเกง’ ควรรีดขอบเอว กระเป๋าขา และตัวกางเกงด้านหน้าและด้านหลัง, ‘กระโปรง’ ควรรีดซับใน…
หมึกจากปากกาลูกลื่นที่ติดบนเสื้อผ้าของคุณ จะทำให้เสื้อผ้าของคุณ มองดูไม่สวยงาม เป็นรอยเปื้อน แต่โชคดีที่อุปกรณ์ในครัวเรือนทั่วๆไปสามารถลบรอยหมึกออกได้ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีที่อันตราย เช่น สารฟอกขาว ที่จะทำลายเนื้อผ้าได้ วิธีการลบหมึกล้วนแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของหมึกและชนิดของผ้า ถ้าวิธีหนึ่งใช้ไม่ได้ ก็ควรลองอีกวิธี ซึ่งท้ายที่สุดก็จะช่วยลบรอยเปื้อนคราบหมึกปากกาออกจากเสื้อผ้าของคุณ หลากหลายวิธีการลบน้ำหมึกออกจากเสื้อผ้า มีดังนี้ 1. ใช้สเปร์ยฉีดผม ฉีดลงที่เสื้อผ้าบริเวณที่เปื้อนหมึก จากนั้นให้ล้างด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่ ขยี้รอยเปื้อนออกให้หมด 2. แช่เสื้อผ้าส่วนที่เปื้อนหมึกในน้ำนม ทิ้งไว้ทั้งคืน จากนั้นให้ซักผ้าตามปกติ วิธีนี้เหมาะเสื้อผ้าสีที่ทำจากผ้าฝ้าย 3. ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณที่เปื้อน แล้วซักผ้าตามปกติ 4. ใช้ยาสีฟัน(ที่ไม่ใช่ชนิดเจล) ป้ายลงบนเสื้อที่รอยเปื้อนน้ำหมึกปากกา จากนั้นให้ถูแรงๆและล้างด้วยน้ำ ทำซ้ำจนคราบหมึกหมดไป ทั้งหมดก็เป็นเคล็ดลับที่มานำเสนอกัน ซึ่งใครที่มีเคล็ดลัีบดีๆก็ช่วยแนะนำกันมาด้วยนะครับ ดีกว่าต้องทิ้งเสื้อผ้าเปื้อนหมึกลงถึงขยะ
ถ้าคุณไม่ชอบร่องรอยต่างๆที่อยู่บนกระจกของคุณ เรามีเทคนิคมานำเสนอ ซึ่งวิธีการนี้รับประกันว่าจะทำให้กระจกของคุณเงางามเป็นประกาย 1. เช็ดสิ่งสกปรกออกจากกระจกของคุณด้วยกระดาษทิชชู่แบบหนา (paper towels) หรือ ผ้า 2. ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดกระจกของคุณด้วยการถูในลักษณะเป็นวงกลม 3. ใช้ผ้าแห้งอีกผืนถูกระจกเป็นวงกลมอีกครั้ง จนกระทั้งความชื้นหมดไป คุณจะเห็นได้ว่ากระจกของคุณจะใส เงางาม เป็นประกาย ด้วยวิธีง่ายๆเพียงเท่านี้เอง 4. สุดท้าย อย่าลืมเก็บแอลกอฮอล์ในที่ที่ปลอดภัย ห่างไกลจากมือเด็ก
หลังจากคุณอ่านหนังสือพิมพ์จบในแต่ละวัน คุณก็จะมีปริมาณหนังสือพิมพ์สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่คุณจะนำหนังสือพิมพ์เก่าๆไปชั่งกิโลขาย หรือไปใช้ประโยชน์อื่นๆ หนังสือพิมพ์ในสต็อกของคุณจึงลดน้อยลงหรือหมดไป บางครั้งคุณอาจนึกไม่ออกว่าจะนำหนังสือพิมพ์เก่าๆไปทำอะไรได้บ้าง เรามีไอเดียดีๆมาแนะนำกัน ดังนี้ 1. นำหนังสือพิมพ์เก่าห่อขยะในครัว หรือวางรองในถังขยะ ซึ่งหนังสือพิมพ์จะช่วยลดกลิ่น และดูดความชื้น 2. ทำความสะอาดกระจก หรือ หน้าจอทีวี โดยนำน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำหนังสือพิมพ์ที่ขยุ้มให้เป็นก้อนจุ่มลงไป แล้วบีบน้ำออก นำไปเช็ดกระจกหน้าต่าง หน้าจอโทรทัศน์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วนำหนังสือพิมพ์ที่แห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง 3. ในฤดูฝน คุณสามารถใช้หนังสือพิมพ์ปูรองที่ทางเข้าประตู หนังสือพิมพ์จะช่วยซับความชื้นจากรองเท้า นอกจากนั้นหากรองเท้าคุณเปียก ให้คุณใช้หนังสือพิมพ์เก่าขยำเป็นก้อนแล้วใส่ไปในรองเท้าของคุณเพื่อซับน้ำและความชื้นในรองเท้า 4. ใช้หนังสือพิมพ์เป็นกระถางสำหรับเพาะเมล็ดพันธ์พืชผักสวนครับ ด้วยการนำเหยือกมาเป็นแม่พิมพ์ วางหนังสือพิมพ์เข้าไป แล้วพับเก็บมุม 5. นำมาใช้รองกันเปื้อนในขณะที่คุณทำงานต่างๆ เช่น ทาสี หรือ งานปูน 6. ใช้ในการจุดไฟ หนังสือพิมพ์ติดไฟได้ง่าย ในการก่อกองไฟ เมื่อไปตั้งแค้มป์ หรือจุดไฟในเตาย่างบาบีคิว ถ้าจุดไฟที่หนังสือพิมพ์ก่อน จะทำให้การก่อไฟ ง่ายยิ่งขึ้น 7. นำมาตัดตกแต่ง หรือพับเป็นของสวยงาม เช่น ดอกไม้…
เมื่อส้วมชักโครกของคุณเก่า หรือ ชำรุด จนคุณต้องการจะเปลี่ยนใหม่ ลองมาดูขั้นตอนง่ายๆในการเปลี่ยนชักโครกด้วยตัวคุณเอง จากภาพด้านบน เป็นส้วมชักโครกที่เราต้องการจะเปลี่ยน เรามาเริ่มดังนี้ 1. ถอดสายจากถังเก็บน้ำของชักโครก 2. ถอดน็อตที่ยึดชักโครกไว้กับพื้น 3. ยกชักโครกออกไป 4. นำชักโครกตัวใหม่เข้ามาวางแทนที่ 5. ใส่น็อตยึดชักโครกกับพื้น และ ติดตั้งถังเก็บน้ำของชักโครก 6. ต่อสายน้ำเข้าที่เก็บน้ำของส้วมชักโครก 7. ติดตั้งฝารองนั่ง 8. เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน สุดท้าย ติดตั้งชักโครกใหม่แล้ว ชักโครกเก่าควรทิ้งให้ถูกที่ถูกทางด้วยนะ ไม่ใช่เอาไปขว้างทิ้งอยู่ข้างถนน
ในฤดูร้อนของประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองร้อนอยู่แล้วทำให้หลายคนอดรนทนไม่ได้กับสภาพอากาศ ซึ่งนับวันก็จะยิ่งทวีความร้อนรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เครื่องปรับอากาศเป็นตัวเลือกแรกสำหรับหลายคนที่จะมาช่วยแก้ปัญหาความร้อน แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกมาด้วยค่าไฟฟ้าที่สูงลิ่ว ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถใช้วิธีอื่นๆในการดับร้อน โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ ซึ่งนอกจากจะเป็นการประหยัดแล้ว ยังช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย 1.ติดตั้งพัดลมเพดาน ถ้าคุณมีแล้วก็ให้เปิดใช้มัน แต่ถ้ายังไม่มีก็ลองหามาติดตั้งใช้งาน พัดลมเพดานสามารถลดอุณหภูมิในห้องได้ด้วยงบประมาณที่ประหยัด เมื่อเปรียบเทียบกับแอร์ขนาด 2.5 ตัน ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 3,500วัตต์/ชม. พัดลมเพดานใช้ไฟฟ้าเพียง 75 วัตต์/ชม. (ปล. ไม่มีเพดาน ก็ใช้พัดลมตั้งพื้นได้ เดี๋ยวนี้มีฟังก์ชั่นใหม่ๆออกมามากมาย เช่น พัดลมไอน้ำ หรือพัดลมที่จำลองการพัดเป็นแบบลมธรรมชาติ) 2. ตรวจให้แน่ใจว่าพัดลมเพดานที่ติดตั้งเป็นแบบเป่าลมลง ไม่ได้ดูดขึ้น 3. อาบน้ำเย็น ระหว่างวัน การอาบน้ำมีต้นทุนถูกกว่าการใช้ไฟมาก หลังจากอาบน้ำคุณจะรู้สึกสดชื่นอีกเป็นชั่วโมง 4. ถ้าคุณไม่สามารถนอนหลับในอากาศร้อนซึ่งทำให้มีเหงื่อ มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ช่วยคุณได้ เช่น หมอนน้ำ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เย็นแล้ว ยังช่วยบรรเทาอาการปวดคอด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีก เช่น พัดลมสำหรับเตียงนอน ซึ่งจะเป่าลมเย็นเข้าไปใต้ผ้าปูที่นอนของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณหลับอย่างเย็นสบาย ตลอดคืน 5. ติดตั้งแผ่นกันแสงแดด หรือ ฟิล์มที่กระจกหน้าต่างบ้านของคุณ เพื่อไม่ให้รังสีจากดวงอาทิตย์เข้าไปในบ้านโดยตรง สำหรับแผ่นกันแสงแดด…
วิธีทำึความสะอาดเครื่องหนัง แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทของเครื่องหนัง สำหรับวิธีทำความสะอาดเครื่องหนังในวันนี้ที่จะมาแนะนำกัน เหมาะสำหรับเครื่องหนังทั่วๆไป เช่น กระเป๋าหนัง ,เฟอร์นิเจอร์หนัง ,ถุงมือเบสบอล ,รองเท้า เป็นต้น 1. บีบสบู่มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เช่น โดฟ (Dove) ลงบนผ้าที่เปียกหมาดๆ ซึ่งก็จะทำให้เกิดฟองเล็กน้อย 2. นำผ้าดังกล่าวไปเช็ดถู เครื่องหนังที่ต้องการทำความสะอาด โดยอย่าให้ผ้าเปียกน้ำมากเกินไป 3. เช็ดฟองสบู่ออก ด้วยผ้าที่เปียกหมาดๆอีกผืน อย่าเทน้ำลงบนเครื่องหนัง 4. ขัดเครื่องหนังด้วยผ้าขนหนูแห้ง 5. รักษาเครื่องหนัง ด้วยการใส่น้ำยา หรือ ครีมบำรุงรักษา ภายหลังที่เครื่องหนังที่ทำความสะอาดแห้ง ปล. วิธีดังกล่าว เป็นวิธีทำความสะอาดเครื่องหนัง ที่เป็นหนังเรียบนะครับ