มิตรภาพไม่ใช่นมกล่องจะได้มีวันหมดอายุ แต่ก็ไม่ใช่ก้อนหินจะได้ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แล้วยังคงสภาพเดิม ถ้าคุณไม่รู้จักรักษาให้ดีเพื่อนซี้ก็อาจมีวันปันใจไปมีเพื่อนใหม่ได้เหมือนกัน

1.  เพื่อนกับแฟนสำคัญเท่ากัน

ไม่ใช่เมื่อก่อนก็เกาะกันเป็นตังเม แต่พอมีแฟนเข้าหน่อย ชาติหนึ่งแล้วเพื่อนยังไม่ได้เห็นแม้แต่ติ่งหูคุณเลย แล้วเพื่อน ๆ ที่ไหนจะไม่น้อยใจ คุณควรจะรู้ว่าเพื่อนกับแฟนแทนกันไม่ได้ จึงต้องถนอมน้ำใจให้ดีทั้งสองคน ถึงแม้ว่าแฟนคุณจะเป็นคนอ่อนต่อโลกชนิดที่ต้องให้คุณป้อนข้าวป้อนน้ำปรนนิบัติพัดวีทั้งวัน แต่อย่างน้อยแค่สละเวลาโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนบ้างวันละ 10 นาที แฟนคุณคงไม่ถึงขนาดดิ้นพราด ๆ ขาดใจไปในพริบตาหรอก

2.  ไม่เปลี่ยนเพื่อนเป็นคนอื่น

คนทุกคนต้องมีเอกลักษณ์ของตัวเอง และเจ้าตัวเขาก็ภูมิใจในสิ่งนั้น ถึงแม้ว่าในสายตาของคุณสไตล์ของเพื่อนมันจะโลโซซกมกแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรไปทำตัวเป็นแม่คนที่สอง จับเพื่อนมาอบรมบ่มมารยาท ขัดเกลารสนิยมให้เป็นอย่างใจคุณ เพราะเท่ากับคุณกำลังดูถูกเพื่อนอยู่ ถ้าใครมาทำกับคุณแบบนี้บ้างคุณก็คงไม่เอาไว้เหมือนกัน จริงไหมล่ะ

3.  ยอมรับความเปลี่ยนแปลง

ความเปลี่ยนแปลงคือบททดสอบความแข็งแรงของมิตรภาพ เช่น วันดีคืนดีเพื่อนอาจแต่งงานมีลูกเป็นฝูง ย้ายบ้านไปอยู่ต่างจังหวัด หรือบังเอิญผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อนเกิดชอบคนคนเดียวกับคุณ แล้วยังไง? แค่นี้แปลว่าความเป็นเพื่อนจบเลยหรือ ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ถาคุณไม่ยอมแพ้มัน มันอยู่ที่ว่าคุณกับเพื่อนรักกันมากพอที่จะช่วยกันสู้กับปัญหาหรือเปล่าเท่านั้นล่ะ

4.  รับฟังคำพูดของเพื่อน

ถ้าคุณพูดจนน้ำลายแทบจะแห้งหมดปากแต่ไม่มีใครสนใจฟังเลย คุณจะรู้สึกอย่างไร เพื่อนคุณเขาก็รู้สึกอย่างเดียวกันนั่นล่ะ เคล็ดลับการเป็นผู้ฟังที่ดีคือ เวลาที่เพื่อนพูดเราต้องทำจิตให้ว่าง ลบเรื่องทุกอย่างออกจากสมองให้หมด แล้วใช้ประสาทหูอย่างเดียว ไม่ต้องไปคิดว่าจะพูดอย่างไร เพราะถ้ามัวแต่คิดคุณก็จะไม่มีสมาธิที่จะฟัง ไม่ต้องไปกังวลว่าจะให้คำปรึกษาว่าอย่างไร แค่ทำตัวเป็นที่ระบายความทุกข์ เพื่อนก็ซึ้งมากพอแล้ว

5.  ตรงไปตรงมาต่อกัน

อย่าคบเพื่อนเพื่อหวังผลประโยชน์ ประมาณคบ ๆ ไปเถอะที่บ้านเพื่อนคนนี้เปิดร้านทองเชียวนะ อย่างนี้ต้องตีซี้ ถ้าคุณตีคุณค่าของมิตรภาพไว้ที่ผลประโยชน์ ในที่สุดเพื่อนก็จะรู้และชิ่งหนีคุณไป เพราะคนที่ไม่เห็นคุณค่าของคำว่า “ความจริงใจ” ก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับความจริงใจตอบกลับไปเหมือนกัน

6.  อย่าให้เพื่อนยืมเงิน

ประโยคอมตะนี้ไม่มีวันตาย เพราะเพื่อนที่เราเห็นว่าหน้าซื่อตาใส มีน้ำใจ อาจกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลยหลังจากกลายพันธุ์มาเป็นลูกหนี้ของเรา บางคนแกล้งทำเป็นไม่เห็นเวลาเจ้าหนี้เดินผ่าน บางคนก็ปล่อยข่าวร้ายกระจายข่าวฉาวทำลายชื่อเสียง หรือบางคนก็หลบหน้าทำตัวหายสาบสูญ เพื่อจะได้ไม่ต้องคืนเงิน ส่วนตัวคนให้ยืมเองก็จะอึดอัดที่ต้องทวงเงินหรือดีไม่ดีอาจมีการอาฆาตถึงชาติหน้า ถ้าถูกลูกหนี้ชักดาบต่อหน้าต่อตา

7.  มิตรภาพจบไม่ต้องเพิ่มศัตรู

ถ้าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจนคุณทนคบต่อไปไม่ไหว สิ่งที่ควรทำคืออยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องติดต่อกัน ไม่ต้องโทรศัพท์ไปหา เท่านี้ความสัมพันธ์ก็จะจืดจางห่างหายไปตามกาลเวลาโดยไม่ต้องบอกเลิกคบให้เสียน้ำใจ ดีกว่าจะไปตั้งป้อมเป็นศัตรูคู่แค้น เพราะอย่าลืมว่าเพื่อนยังมีเพื่อนของเพื่อนอีกเป็นสิบ ถ้าคุณเป็นศัตรูกับคนหนึ่ง คนอื่น ๆ ก็อาจพลอยแอนตี้คุณไปด้วย