Archive For The “สุขภาพ” Category
การเต้นรำเป็นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ที่เป็นการพักผ่อนไปในตัว โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเลย แถมร่างกายยังได้เผาผลาญพลังงานมากพอ ๆ กับการวิ่งเหยาะ ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่ต้องใช้พื้นที่เฉพาะสำหรับทำกิจกรรม การเต้นรำเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุมีการศึกษารับรองว่าช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีภาวะกระดูกพรุน การศึกษาหนึ่งรายงานว่า เมื่อเต้นรำให้ได้สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง ทุกสัปดาห์ สามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกสันหลังได้ ทำง่ายแถมสนุกอย่างนี้ เรามาเริ่มกันเลย สำหรับคนเริ่มเต้นรำ 1. เริ่มแรกให้โยกตัวตามเสียงเพลงก่อน 2. เริ่มด้วยจังหวะช้า ๆ อย่างตะลุงเพื่ออบอุ่นร่างกาย พยายามลงน้ำหนักบริเวณกลางฝ่าเท้า โดยเฉพาะตอนหมุนตัว ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที 3. ใช้จังหวะที่เร็วขึ้น เช่น จังหวะวอลตซ์ ซึ่งมีลักษณะการเคลื่อนไหวร่างกายคล้ายกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เต้นวอลตซ์จังหวะเร็วและช้าสลับกันรวมเป็นเวลา 20 นาที 4. ผ่อนคลายร่างกายโดยใช้จังหวะดนตรีช้าลง เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะปกติ ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที เมื่อเต้นได้ระยะหนึ่งแล้ว ลองหัดเต้นรำหลาย ๆ จังหวะ หรือใครไม่ถนัดแบบสากลจะใช้รำไทย เช่น รำวงที่มีจังหวะสนุกสนานก็ได้ แต่เลือกเพลงและจังหวะที่มีระดับความเร็วใกล้เคียงกับจังหวะที่กล่าวมา และทำอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ…
หนุ่มสาวที่ชอบนอนดึก ๆ ดื่น ๆ จนติดเป็นนิสัย แล้วก็ต้องตื่นเช้าไปเรียนนั้น ถือว่ากำลังทำลายสุขภาพตัวเองทางหนึ่ง ลองสังเกตตัวเองง่าย ๆ โดยดูว่าหน้าตาของเราใสปิ๊งสมวัยหรือเปล่า ถ้าหน้าตาเริ่มหมองคล้ำ มีสิวขึ้นประปราย หรือรู้สึกเบลอ ๆ ตลอดทั้งวันแล้วละก็ แสดงว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณเตือนว่าควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ สำหรับคนที่ทำตัวเป็นนกฮูกมานาน การนอนให้หลับก่อนเที่ยงคืนอาจไม่ง่ายนัก วันนี้มีตัวช่วยมาฝาก 1. อาหารช่วยให้นอนหลับ รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 1 อย่างขนมปังโฮลวีท ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง และผักใบเขียว ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น 2. แช่น้ำอุ่นกรุ่นกลิ่นสมุนไพร วิธีนี้ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างวันได้เป็นอย่างดี โดยผสมน้ำมันหอมระเหยอย่างกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือคาโมมายล์ ลงในอ่างอาบน้ำ แช่เพื่อผ่อนคลายสักครู่ จะช่วยให้หลับสบาย 3. เครื่องหอมข้างหมอน หอมผ่อนคลายกันให้ถึงเตียง โดยวางถุงผ้าใส่สมุนไพรหรือบุหงากลิ่นลาเวนเดอร์ไว้ข้างหมอน ก็จะทำให้ง่วงนอนง่ายขึ้น 4. 25 องศาเซลเซียส ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะกับการนอนหลับพักผ่อน 5. นอนลืมตาโพลง วิธีนี้ถือเป็นท่าไม้ตาย ลองตั้งใจว่าจะไม่หลับ แล้วเอาใจจดจ่อกับการลืมตาโพลงดูสิ เชื่อไหมว่า เผลอแป๊บเดียวหนังตาก็จะค่อย…
สระผมไม่กี่วัน ผมก็เหนียวมันจับกันเป็นก้อนอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งยังมีสิวอุดตันผุดขึ้นมาด้วย จึงรู้สึกไม่สะอาด และทำให้ขาดความมั่นใจอย่างนี้ มาดูสาเหตุและวิธีแก้กันดีกว่า ผมมันมักเกิดจากต่อมไขมันทำงานผิดปกติ การใช้แชมพูที่แรงเกินไปหรือนวดหนังศีรษะแรงเกินไป ทำให้หนังศีรษะที่มันอยู่แล้วยิ่งขับน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น เมื่อลองแก้ไขมาหลายวิธี ในที่สุดก็พบทางออกที่ผลไม้รสเปรี้ยวจี๊ดใกล้ ๆ มือนี่เอง ส่วนผสมของสูตรนี้มีเพียง 2 อย่าง คือ น้ำมะนาวและน้ำกลั่น โดยใช้น้ำมะนาว 7 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำกลั่นปริมาณครึ่งถ้วย นำมานวดหนังศีรษะและเส้นผมด้วยปลายนิ้วเบาๆ หมักทิ้งไว้สัก 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำมะนาวมีกรดอ่อน ๆ ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วและคราบรังแคเหนียว ๆ ที่ติดอยู่บนหนังศีรษะให้หลุดออก น้ำมันจากผิวมะนาวยังมีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรีย ส่วนผสมของน้ำมะนาวและน้ำกลั่นยังช่วยคืนสมดุลให้หนังศีรษะและเส้นผมที่มีน้ำมัน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้เส้นผมนุ่มสลวย แค่นี้ก็ได้ผมพลิ้วสวยมาอวดกันแล้ว
ข้าวโอ๊ต จัดเป็นธัญพืชที่ดีมากชนิดหนึ่งที่เรานิยมนำมารับประทานเป็นอาหารเช้า อาทิ โจ๊กข้าวโอ๊ต ขนมปังข้าวโอ๊ต เนื่องจากข้าวโอ๊ตเป็นแหล่งอาหารคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานสูง มีเส้นใยมากและสามารถละลายน้ำได้จึงดูดซึมน้ำตาล ไขมัน ของเสียต่างๆ ได้ดี ทำให้เราอิ่มท้องได้นานแถมไม่อ้วน แต่นอกเหนือจากคุณประโยชน์เหล่านี้แล้วคุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า ข้าวโอ๊ตมีสรรพคุณมากกว่าที่เราคิด ทั้งยังช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคร้ายและนำมาใช้เสริมความงามได้อีกด้วย โดยข้าวโอ๊ต มีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างทันที และเป็นที่ทราบกันดีว่าข้าวโอ๊ตมีสารอาหารที่หลากหลาย โดยเฉพาะมีเส้นใยมากทำให้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะลำไส้ของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงลดอาการท้องผูกและดูดซึมน้ำตาล ไขมัน ของเสียต่าง ๆ ได้ดี ช่วยลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานไม่หิวระหว่างมื้อบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่สำคัญคือ เบต้ากลูแคน เป็นเส้นใยอาหารที่สามารถละลายในน้ำได้ดี มีคุณสมบัติคอยดูดซับคอเลสเตอรอลในลำไส้เล็กและปล่อยเป็นของเสียออกจากร่างกาย การรับประทานข้าวโอ๊ต จึงช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ลอความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและโรคหัวใจได้ผลดี ซึ่งองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (USFDA) รับรองผลการศึกษาวิจัยว่า หากร่างกายได้รับเบต้ากลูแคนอย่างน้อย 3 กรัม ต่อวันจะสามารถช่วยลดปัญหาคอเลสเตอรอลได้ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ปัจจุบันเรามักนิยมนำข้าวโอ๊ต มารับประทานเป็นอาหารเช้าเพื่อสุขภาพเพราะมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ข้าวโอ๊ต 100 กรัม ให้พลังงาน 390 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 66 กรัม ไขมัน 7…
ปัจจุบันการดำเนินชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทำให้เราขาดการดูแลสุขภาพที่ดีแบบไม่รู้ตัว กว่าจะทราบก็ต่อเมื่อตัวเองมีอาการผิดปกติ เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ จนกระทั่งเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ดังนั้นยังไม่สายที่เราจะเริ่มต้นดูแลสุขภาพเพื่อร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่ง การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่เรามักนิยมทำกัน เนื่องจากได้ผลดีและยั่งยืน โดย รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณบดีผู้ก่อตั้งคณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ ให้ความรู้ว่า สุขภาพองค์รวมเน้นความสมดุลและความสุนทรียภาพขององค์ประกอบ 3 อย่าง ได้แก่ กาย จิต(สมอง) และจิตวิญญาณ ซึ่งองค์ประกอบจะครบหรือไม่ดูที่ 3 อย่างนี้ โดยมีองค์ประกอบอีก 5 ด้าน ได้แก่ 1. สุขภาพร่างกาย ถ้าร่างกายจะดีต้องดูแลในเรื่องของอาหาร โภชนาการ ซึ่งของแพทย์แผนตะวันออกมีอาหารตามลักษณะของแต่ละคนหรืออาหารตามธาตุกำเนิด คือธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ของแพทย์ทางตะวันตกจะไม่เหมือนกัน ซึ่งแบบตะวันตกจะเป็นอาหาร 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ ถ้ากายแข็งแรงสมบูรณ์จะเป็นตัววัด คือไม่เจ็บป่วย…
การเลี้ยงฉลองก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานครื้นเครง ซึ่งสิ่งที่เรามักจะขาดไม่ได้ก็คือการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มสีสันให้งานเลี้ยง แต่จะดื่มกันอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ทั้งนี้ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ แนะนำว่า การดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเฉลิมฉลองเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว แต่เราจะดื่มอย่างไรเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิต รวมทั้งถูกต้องตามกฎหมายและสุดท้ายดีต่อสุขภาพนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งเรามีตารางเปรียบเทียบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกับโอกาสเกิดอุบัติเหตุจราจรไว้ดังนี้ คือ หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราคือใกล้เคียงกับคนที่ไม่ดื่มสุรา แต่หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 2 เท่า หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 3 เท่า หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 6 เท่า หากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 40 เท่า และหากเรามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด มากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มสุราเพิ่มเป็น 500 เท่า ดังนั้นเราจะสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้แค่ไหนก่อนที่จะขับรถ คือใน 1…
คิด ๆ เท่าไรคิดไม่ออกสักที เชื่อว่าหลายคนเคยประสบกับปัญหาเหล่านี้ ยามสมองมึน ๆ ตื้อ คิดไม่ออก นั่นก็เพราะสมองขาดการบำรุงดูแลเอาใจใส่นั่นเอง ทั้งที่ “สมอง” เป็นอวัยวะสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าส่วนไหน ๆ ด้วยเหตุนี้ ซาน โบเวอร์แมน นักโภชนาการที่ปรึกษาเฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนลลิมิเต็ด จึงแนะเคล็ด(ไม่)ลับ บำรุงให้สมองแล่นแบบง่าย ๆ ใกล้ตัวให้คงสมรรถภาพดีเยี่ยมแข็งแรงตลอดชั่วอายุ ผัก ผลไม้ ออกกำลังกาย ดีต่อความทรงจำ สิ่งที่ดีต่อร่างกายคือ สิ่งที่ดีต่อสมองเช่นเดียวกัน อาหารที่ทำให้สมองแข็งแรง จึงเป็นอาหารชนิดเดียวกับกลุ่มอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและโรคเบาหวาน อาหารจำพวกนี้ได้แก่ ผักและผลไม้ โฮลเกรน ธัญพืชเต็มเมล็ดไม่ผ่านการขัดสี หรือขัดสีน้อยที่สุด ไขมันดี และอาหารที่ให้โปรตีนแต่ไขมันต่ำ นอกจากนี้การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะส่งเสริมให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เติมพลังงานให้สมองด้วย “กลูโคส” ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากการย่อยของอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง การมีกลูโคสในเลือดปริมาณเหมาะสม มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างพลังงานแก่สมอง สังเกตได้จากการที่เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือเวียนศีรษะ หากต้องทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยไม่มีอาหารตกถึงท้อง เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดตกฮวบลงอย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบทำให้สมองไม่สามารถคิดอย่างมีประสิทธิภาพได้ ด้านคาร์โบไฮเดรต ควรเลือกรับประทานชนิดดี พบในผัก ผลไม้ ธัญพืชโฮลเกรน…
1. ท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ 30 แคลอรี่ ทุก 10 นาที นอกจากนี้จะทำให้กล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อท้อง และกล้ามเนื้อหัวไหล่แข็งแรงด้วย แต่มักมีปัญหากับการหายใจผิดวิธี 2. ท่ากบ เป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ 60 แคลอรี่ ทุก 10 นาที จะช่วยขยายปอดทำให้หน้าอก ขา หัวไหล่ และกล้ามเนื้อแขนแข็งแรง ที่สำคัญควรอบอุ่นร่างกายก่อนว่ายท่านี้ มิฉะนั้นอาจเกิดการบาดเจ็บที่หัวเข่าหรือบริเวณหลังได้ 3. ท่ากรรเชียง เป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ 80 แคลอรี่ ทุก 10 นาที และทำให้กล้ามเนื้อท้อง หลัง ขา แขน และหัวไหล่แข็งแรง เหมาะสำหรับผ่อนคลายหลังจากนั่งทำงาน 4. ท่าผีเสื้อ เป็นท่าที่เผาผลาญแคลอรี่ได้ 150 แคลอรี่ ทุก 10 นาที แต่ควรมีครูสอนให้ว่ายอย่างถูกต้อง เพราะอาจเกิดอาการเจ็บหัวไหล่และหลังได้
ท้องเสียเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ถ้าไม่กี่ครั้งก็ยังพอมีแรงทำโน่นทำนี่ต่อไป แต่ถ้าเกิน 3 ครั้งขึ้นไป อาจทำให้หมดเรี่ยวหมดแรงเอาดื้อๆ หลายคนพึ่งยาแก้ท้องเสีย ซึ่งอาจทำให้เกิดโทษและอันตรายต่อระบบย่อยอาหารตามมามากมายเป็นหางว่าว วันนี้เรามาลองวิธีใหม่นี้กันดีกว่า จุดที่จะกดนี้อยู่ห่างจากขอบล่างของสะบ้าหัวเข่าลงไป 8 นิ้ว ถัดสันหน้าแข้งออกไปทางด้านนอกลำตัว 1 นิ้ว เมื่อมีอาการ ให้ใช้หัวแม่มือกดบริเวณดังกล่าวนาน 2 นาทีที่ขาทั้งสองข้างที่รู้สึกปั่นป่วนท้องและถ่ายหนักแบบติดต่อกันจะค่อยๆ ลดลงจนหายเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าอาการท้องเสียป้องกันได้ด้วยการมีสุขอนามัยที่ดี
ชาดอกไม้จีนช่วยหลับสบาย เมื่ออายุมากขึ้น เรามักจะมีปัญหาเรื่องการนอนตามไปด้วย บ้างก็นอนไม่ค่อยหลับ บ้างก็มักตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วลืมตาโพลงอยู่อย่างนั้นหรือไม่ก็ตื่นเช้าเกินไปแล้วนอนหลับต่อไม่ได้ ดอกไม้จีนแห้ง คนจีนเรียกว่า “กิมจำเช่า” อุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินต่าง ๆ เกสรของดอกไม้จีนมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงประสาท ทำให้ระบบประสาททำงานเป็นปกติ ซึ่งช่วยให้ง่วงและนอนหลับสบาย นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มการคัดหลั่งของฮอร์โมนเมลาโทนิน(melatonin)ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิชีวิตให้ร่างกาย การต้มชาทำได้ง่าย ๆ เพียงใช้ดอกไม้จีนแห้ง 15 กรัม ต้มในน้ำ 1 ถ้วย เติมน้ำตาลกรวดนิดหน่อย ดื่มเป็นชาตอนหัวค่ำ ก่อนเข้านอน ช่วยให้หลับสบายขึ้น และตื่นขึ้นมารับเช้าวันใหม่ด้วยอารมณ์ที่สดชื่นแจ่มใส จิบชาสบายๆ ก่อนนอนเป็นการผ่อนคลาย แป๊บเดียวก็หลับปุ๋ย