เครื่องปรุง
พริกขี้หนูแห้งสีแดง ๒๕ เม็ด
เกลือป่น ๑/๔ ช้อนชา
ขมิ้นสดซอย ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
กระเทียมซอย ๒ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
หอมเล็กซอย ๒ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
กะปิ ๑ ช้อนโต๊ะ
ปลากุเลาปิ้งแกะเนื้อ ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำ ๒ ๑/๒ ถ้วยตวง
สับปะรดหั่นเป็นชิ้นขนาด ๑ นิ้ว ๔ ถ้วยตวง
น้ำปลา ๖ ถ้วยตวง
น้ำตาล ทรายขาว ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียกคั้นข้นปานกลาง ๙ ช้อนโต๊ะ
เนื้อปลากะพงขาวหั่นเป็นชิ้นใหญ่ ขนาด ๓ นิ้ว ๒ ๑/๒ ถ้วยตวง
วิธีทำ
๑. โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด โดยโขลกพริกและเกลือให้ละเอียด ใส่ขมิ้นโขลกต่อพอละเอียด ใส่กระเทียมซอย โขลกต่อแล้วใส่หอมซอย โขลกต่อจนละเอียดแล้วใส่ปลากุเลา โขลกจนละเอียดดี ใส่กะปิ โขลกต่อให้เข้ากันดี
๒. ละลายนํ้ากับพริก แล้วตั้งไฟพอเดือด ใส่สับปะรดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล นํ้ามะขามเปียก พอเดือดดี ใส่ปลา เร่งไฟให้นํ้าแกงเดือดพล่าน พอเดือด อีกครั้งและปลาสุกยกลง
สูตรนี้สามารถทำอาหารรับประทานได้ ๘ คน
เทคนิคการประกอบ
๑. เลือกพริกขี้หนูแห้งสีแดงสด เมื่อผสมกับสีเหลืองของขมิ้นสด จะกลายเป็นสีส้มสวย
๒. เลือกสับปะรดที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน เวลาแกง เคี่ยวสับปะรดให้นํ้าออกสักครู่ จึงปรุงรส เพื่อชิมดูว่าสับปะรดเปรี้ยวมากหรือไม่ ถ้าเปรี้ยวก็ลดนํ้ามะขามลง และอาจเพิ่มส่วนนํ้าตาลขึ้นอีกเล็กน้อย
๓. การหั่นปลาเป็นชิ้นใหญ่ น่ารับประทานกว่าชิ้นเล็ก และเนื้อปลาไม่แหลก
ลักษณะที่ดีของอาหาร แกงเหลืองสับปะรด เป็นแกงของภาคใต้ รสเข้มข้น กล่าวคือ เผ็ด เค็ม หวาน เปรี้ยว ครบทุกรส เหมาะสำหรับเสิร์ฟคู่กับข้าวสวย เป็นกับข้าวในมื้อเย็น เสิร์ฟคู่กับปลาเค็มทอดจะเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้น