เครื่องน้ำพริกแกง
พริกแห้ง ๑๐ เม็ด
หัวหอมปอกเปลือก ๑ หัว
กระเทียมปอกเปลือก ๑ หัว
เกลือป่น ๑ ช้อนชา
กะปิ ๑ ช้อนชา
เครื่องปรุงอื่น
ปลาช่อน ๑ ตัว
ผักบุ้งจีน ๒ กำใหญ่
ส้มมะขามเปียกคั้นน้ำข้น ๆ ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำเปล่า ๓ ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำตาลปึก ๑ ช้อนโต๊ะ
มะกรูด ๑ ลูก
ใบมะกรูด ๒-๓ ใบ
น้ำปลา ๑ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
๑. ขอดเกล็ดปลาออกให้หมด ตัดหางออกครึ่งหนึ่ง เพื่อต้ม นำไปโขลกน้ำพริกแกง เนื้อปลาที่เหลือหั่นเป็นแว่น ส่วนหัวปลาตัดปากแข็งออก ผ่า ๒ ซีก ล้างผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
๒. พริกแห้งผ่าแกะเมล็ดออกให้หมด แช่น้ำให้นิ่ม บีบให้แห้ง โขลกรวมกับหอม กระเทียม กะปิ เกลือป่น เนื้อปลาสุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อใส่ครกโขลกอีกครั้งหนึ่งให้เข้ากัน
๓. เมื่อโขลกน้ำพริกละเอียดดีแล้วตักใส่ในหม้อ ต้มปลาละลาย อย่าให้น้ำพริกเป็นก้อน ถ้าน้ำน้อยเติมให้พอดี กับผักและปลา
๔. ผักบุ้งเด็ดใบแก่ทิ้ง ตัดเป็นท่อนสั้นๆ ล้างน้ำให้สะอาด พอน้ำแกงเดือดใส่ผักบุ้ง (ในข้อ ๓) แล้วเติมน้ำปลา น้ำส้มมะขามเปียก ชิมรสดู เดือดอีกครั้งใส่ปลาลงไป มะกรูดล้างสะอาดแล้วผ่า ๒ ซีก แคะเมล็ดออก ใส่ลงใน หม้อแกงทั้งซีก ใบมะกรูดฉีกเล็กๆ ใส่ลงไปด้วย พอเดือด ชิมรสดูอีกทีให้มีรสเปรี้ยว เค็ม หวานนิดหน่อย
สูตรนี้สามารถทำอาหารรับประทานได้ ๘-๑๐ คน
เทคนิคการประกอบ
๑. ใช้เนื้อปลาต้มโขลกลงในส่วนผสมเครื่องน้ำพริกแกง เพราะต้องการให้น้ำแกงข้น
๒. อาจใช้สับปะรดขนาดสุกไม่จัดเกินไป หรือมะละกอดิบ แทนผักบุ้งก็ได้
๓. ใส่ผลมะกรูดและใบมะกรูดเพื่อดับกลิ่นคาวของปลาได้
ลักษณะที่ดีของอาหาร แกงชักส้ม น้ำแกงมีสีแดงของพริกแห้ง ตัดกับสีเขียวของผักบุ้งและปลาซึ่งมีสีขาว เมื่อถูกกับน้ำแกงจะมีสีแดงอ่อน ๆ เพิ่มสีสันของแกงให้น่ารับประทานยิ่งๆ ขึ้น รสชาติ เปรี้ยว เค็ม หวานนิดหน่อย