เครื่องปรุงนํ้าพริกแกง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ซอยละเอียด ๒ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ๑ ช้อนชา
กระเทียมซอย ๑ ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น ๑/๒ ช้อนชา
นํ้าตาลปีบ ๒ ช้อนชา
เครื่องปรุงแป้งชุบ
แป้งสาลี ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า ๑/๒ ถ้วยตวง
หัวกะทิ ๑/๒ ถ้วยตวง
นํ้าปูนใส ๑ ถ้วยตวง
เครื่องปรุงเครื่องทอด
กุ้งตะเข็บปอกเปลือกไว้หาง ผ่าหลัง ๒ ถ้วยตวง
มะละกอดิบหั่นเส้นฝอย ๒ ถ้วยตวง
ฟักทองหั่นเส้นฝอย ๒ ถ้วยตวง
นํ้ามันพืชสำหรับทอด ๒ ๑/๒ ถ้วยตวง
เครื่องปรุงนํ้าจิ้ม
น้ำสมสายชู ๑/๒ ถ้วยตวง
นํ้าตาลทรายขาว ๖ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ๓/๔ ช้อนชา
แตงกวาผ่าสี่หั่นหนาพอควร ๑/๒ ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นขวาง ๑/๔ ถ้วยตวง
ถัวลิสงคัวป่นหยาบ ๑/๔ ถ้วยตวง
วิธีทำ
๑. โขลกเครื่องน้ำพริกแกงให้ละเอียด
๒. ผสมแป้งสาลีกับแป้งข้าวเจ้ารวมกันในเครื่องแกง ใส่หัวกะทิและนํ้าปูนใสทั้งหมด ตีด้วยไม้ตีไข่ให้เข้ากันโดย เร็ว แบ่งเป็น ๓ ส่วน
๓. ผสมกุ้ง มะละกอ และฟักทอง กับแป้ง อย่างละส่วน
๔. ใส่นํ้ามันในกระทะ ตั้งไฟอ่อนปานกลาง พอน้ำมันร้อน ตักกุ้งลงทอดเป็นแพเล็กๆ จนหมด และทอดมะละกอกับฟักทองวิธีเดียวกันโดยทอดให้กรอบเหลืองสวย
๕. ทำน้ำจิ้ม โดยผสมนํ้าส้ม นํ้าตาล และเกลือ คนให้ละลาย ใส่แตงกวา พริก และถั่วลิสง คนพอเข้ากัน
๖. การจัดเสิร์ฟ จัดของทอดทั้ง ๓ อย่าง ใส่จาน ใส่นํ้าจิ้มในถ้วย จัดเสิร์ฟด้วยกันโดยเสิร์ฟร้อน ๆ
สูตรนี้สามารถทำอาหารรับประทานได้ ๑๒ คน
เทคนิคการประกอบ
๑. อาหารนี้มีขายทั่วไปในจังหวัดภาคเหนือ เช่น แพร
น่าน
๒. กุ้ง ใช้กุ้งฝอยก็ได้ จะกรอบดีกว่ากุ้งอื่นๆ กุ้งตะเข็บ มีลักษณะตัวเล็กๆ ยาวๆ ใช้ทั้งเปลือกได้ จะได้แคลเซียมเพิ่ม ถ้าใช้กุ้งชีแฮ้ควรปอกเปลือก เพราะเปลือกจะแข็งเกินไป
๓. มะละกอล้างสะอาด แล้วปอกเปลือกเสียก่อน สับด้วยมีดคมเป็นเส้นฝอยปานกลางหรือหั่นบางพอสมควร แล้วหั่นเป็นเส้นอีกครั้ง
๔. ฟักทอง ทำเช่นเดียวกับมะละกอ
๕. อุณหภูมิในการทอดไม่ใช้ไฟแรง สิ่งที่ทอดจะไม่กรอบ เพราะไม่มีเวลาพอที่จะทำให้เนื้ออาหารแห้งลง จึงไม่กรอบ เมื่อทอดแล้วควรเสิร์ฟทันที ถ้าช้าไปอาหารจะนุ่ม
ลักษณะที่ดีของอาหาร กระบองเมืองแพร่ เหมาะสำหรับเป็นอาหารกับแกล้ม เป็นชิ้นขนาดคำ ๆ สีเหลืองทอง รสชาติของอาหารได้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน จากน้ำจิ้ม