การกอบกู้บ้านที่เต็มไปด้วยดิน เลน โคลน ตม เศษขยะ ของเน่าเหม็น เครื่องเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ที่เสียหาย รวมทั้งต้นไม้ สนามหญ้าบริเวณรอบบ้านที่ถูกทำลาย ล้วนเป็นภาพที่อเนจอนาถใจยิ่ง หากตั้งสติไม่ได้ พลังใจสูญสลาย ความท้อแท้สิ้นหวังจะเข้ามาครอบงำ เท่ากับเป็นการซ้ำเติมให้เกิดปัญหาเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
การกอบกู้ ฟื้นฟู เอาสิ่งที่เรารักกลับคืนไม่ใช่เป็นเรื่องยากเกินกว่าความเพียรและมุ่งมั่นของเรา การจะเกิดความเพียรได้นั้นต้องมี 3 พลัง เกิดขึ้นก่อน การสร้าง พลังใจ พลังกาย และพลังปัญญา เราต้องค้นหาและสร้างมันขึ้นมาให้ได้ ก่อนจะลงมือกอบกู้ฟื้นฟูชีวิต
อย่าลืมว่าช่วงนี้เป็นฤดูปลายฝนต้นหนาว อากาศเปลี่ยน คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรืไม่แข็งแรงจะเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะ ไข้หัวลม ดังนั้นเราต้องหันมาสนใจที่จะกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ หลังภาวะน้ำท่วมเพื่อให้ร่างกายเข็มแข็งสร้างเรี่ยวแรงไว้กู้บ้านและชีวิต โดยมีหลักการกว้างๆ ดังนี้
– กลับมากินอาหารให้ครบ 5 หมู่เหมือนดังเช่นภาวะปกติ การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบทุกชนิด อันได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไขมัน ทำให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้อย่างสมบูรณ์ แข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรค
– กินปลาเป็นหลักกับผักเป็นประจำ หลังน้ำท่วมปลาน้ำจืดจะเยอะมาก สารพัดปลาวางขายตามตลาด ปลาเป็นอาหารที่ให้โปรตีนที่ดีมีความสมบูรณ์ของกรดอะมิโนมีไขมันต่ำและเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ถามราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ นำปลามาปรุงประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ตามความถนัดของแต่ละคน ส่วนผัก ผลไม้ หลังน้ำท่วม อาจจะมีราคาแพง เพราะพื้นที่การเพาะปลูกถูกทำลาย การขนส่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้น ควรหันมากินผักพื้นบ้านให้มากขึ้น กินผักตามฤดูกาลในช่วงหน้าหนาว การกินผัก ผลไม้ ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุ ไปสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายตลอดจนได้สารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนและใยอาหาร ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้หลายชนิด
– กินอาหารที่ปรุงสดจากธรรมชาติสุกสะอาดและปลอดภัย ในช่วงน้ำท่วมเรากินอาหารที่ผ่านขบวนการหรือ Process food มาโดยตลอด หลายคนคงจะเบื่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋องไปอีกนาน หลังน้ำท่วมเราต้องหันมากินอาหารปรุงจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ต้ม ๆ แกง ๆ ยำ น้ำพริกผักจิ้ม ซึ่งจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารมากกว่ากินอาหารสำเร็จรูป
– หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสเค็มมันและหวานจัด การกินอาหารรสจัดหลังน้ำท่วม เท่ากับเป็นการซ้ำเติมสุขภาพที่อ่อนแออยู่แล้วให้เลวร้ายลงไปอีก อาหารรสเค็มจะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมเกินความต้องการของร่างกายนำไปสู่ภาวะความดันโลหิตสูง ส่วนอาหารที่มีไขมันสูงกินแต่พอควร เพราะส่วนเกินที่ร่างกายนำไปเป็นพลังงานไม่หมดก็จะเก็บสะสมไว้ ทำให้ภาวะไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น นำมาซึ่งโรคต่างๆ มากมาย และสุดท้าย การกินหวานจัดเป็นพฤติกรรมที่น่าห่วงเพราะช่วงน้ำท่วม น้ำเปล่าขาดแคลน หลายคนยังชีพด้วยน้ำอัดลมและน้ำหวานตลอด ในที่สุดทำให้กลายเป็นคนติดน้ำอัดลมได้ ขอเตือนว่าน้ำอัดลมคือน้ำผสมน้ำตาลที่มีน้ำตาลสูงถึง 9-15 ช้อนชาต่อขวด และน้ำตาลเป็นพลังงานสูญเปล่า หันมาดื่มน้ำสะอาดเป็นปกติดีที่สุด
– การกินอาหารที่เหลือจากเคยซื้อตุนไว้ช่วงน้ำท่วม ต้องระมัดระวังให้ดี เพราะอาจหมดอายุหรือมีเชื้อรา และเน่าเสีย ขืนบริโภคเข้าไปแทนที่จะไปเพิ่มพลังกลับทำให้พลังหมดเพราะโรคระบบทางเดินอาหาร
– หลังน้ำท่วมอาจมีโรคระบาดหลายชนิดตามมา จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและใส่ใจปรุงประกอบและบริโภคอาหารให้สะอาด ปราศจากการปนเปื้อนเชื้อโรค สารเคมี และพยาธิ
– หลังน้ำท่วมราคาอาหารทุกชนิดแพงขึ้น เราต้องรู้จักการจัดการและใช้ความพิถีพิถันในการเลือกซื้อและบริโภค อาหารดีมีคุณค่าแต่ราคาไม่แพง
สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดในการที่จะเกิดพลังใจและพลังกาย คงหนีไม่พ้น การมีสติ จงเรียกสติกลับคืนมาโดยเร็ว แล้วเราจะเกิด พลังปัญญา จะนำพาให้เราลุกขึ้นยืน ฟื้นคืนชีวิต พิชิตปัญหา ใช้เวลาคงไม่นาน ชีวิตจะกลับมาเบ่งบานดังเช่นเคย
ข้อมูลจาก อ.สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านโภชนาการ และผู้จัดการโครงการพัฒนาระบบและกลไกเพื่อเด็กไทยมีโภชนาการสมวัย สสส.และกรมอนามัย