วิธีทำข้าวแช่

๑. นํ้าดอกไม้สด

ส่วนผสม

ดอกมะลิ      ๒      ดอก

ดอกกระดังงาสีเหลือง     ๒      ดอก

กุหลาบมอญ          ๑       ดอก

ดอกชำมะนาด       ๕       ดอก

เทียนอบ      ๑       เล่ม

วิธีลอย ควรเริ่มลอยนํ้าดอกไม้สดเวลาประมาณ ๑๘.๐๐- ๑๙.๐๐ น.

๑. จุดเทียนอบให้ไฟลุกทั่วแล้วดับเทียนใส่ในขวดโหล หรือภาชนะที่จะลอยน้ำ ปิดฝาให้แน่น พักไว้

๒. บีบกระเปาะของดอกกระดังงาให้หลุด แล้วฉีกกลีบละ ๓-๔ ชิ้น เด็ดกลีบเลี้ยงของดอกมะลิ แล้วพักไว้

๓. นำเทียนอบออกจากโหล เทนํ้าสะอาดลงในโหล หลังจากนั้นจึงใส่กระดังงา มะลิ ชำมะนาด และกุหลาบมอญ ใช้เฉพาะดอก วางสลับกันเป็นระยะ โดยมีช่องว่างบ้าง จึงปิดฝาโหลทิ้งไว้ ๑ คืน

๔. กรองน้ำลอยดอกไม้สดให้สะอาด แล้วนำมาใส่ในข้าวแช่

๒. การหุงข้าว

ส่วนผสม

ข้าวสาร       ๑ ส่วน

นํ้าสะอาด    ๖ ส่วน

วิธีทำ

๑. ซาวข้าวสารให้สะอาด ใส่นํ้าตามส่วน ตั้งไฟ คอยคนอย่าให้ไหม้ พอเดือดขนาดเช็ดนํ้าได้ ยกลง รินน้ำทิ้งให้หมด

๒. ล้างข้าวด้วยนํ้าเย็นหลายๆ ครั้ง ล้างไปจนกว่าข้าวจะเย็น

๓. ใส่นํ้าในลังถึง ตั้งไฟจนเดือด ปูผ้าขาวบางลง บนลังถึง เทข้าวที่ล้างแล้วลงไป และเกลี่ยให้กระจายทั่ว นึ่งประมาณ ๑๐ นาที หรือดูจนข้าวสุก แต่เม็ดไม่บาน ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น เวลาจะรับประทานใส่นํ้าลอยดอกไม้สดที่แช่เย็นไว้แล้ว

๓. กะปิทอด

ส่วนผสม

กะปิ   ๑       ช้อนโต๊ะ

ปลาดุกย่าง   ๑       ตัว

ปลาฉลาดย่าง        ๒      ตัว

กระชาย       ๗      ราก

ตะไคร้        ๒      ต้น

ข่า      ๕       แว่น

ผิวมะกรูด    ๑       ช้อนชา

รากผักชี      ๑       ช้อนชา

หอมเล็ก      ๙       หัว

กระเทียม     ๑๐     กลีบ

ไข่เป็ด         ๓       ฟอง

นํ้าตาลปี๊บ นํ้าปลาดี อย่างละ      ๑       ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช     ๓       ช้อนโต๊ะ

แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งสาลี   ๑     ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

๑. โขลกเครื่องน้ำพริกแกงให้ละเอียด จึงใส่กะปิลง โขลกด้วย

๒. แกะเนื้อปลาย่างทั้ง ๒ ชนิด ใส่ลงในนํ้าพริก โขลกจนละเอียดให้เข้ากัน

๓. คั้นกะทิใส่นํ้าน้อย ๆ ให้ได้หัวกะทิ ๑ ถ้วย และหาง ๑ ถ้วย เคี่ยวส่วนหัวจนแตกมัน

๔. ผัดน้ำพริกแกงให้ละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำปลา นํ้าตาล ผัดไฟอ่อนต่อไปจนแห้ง ยกลงและทิ้งไว้ให้เย็น

๕. ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เล็กให้เท่ากัน เวลาจะชุบไข่ทอด จึงกดให้แบนเล็กน้อย

๖. ต่อยไข่พอแตก ใส่แป้งลงไปตามส่วน คนให้เข้ากัน นำกะปิที่ปั้นไว้ชุบไข่ทอดในนํ้ามันพอเหลืองตักขึ้น ซับด้วยกระดาษให้น้ำมันแห้ง พักไว้

๔. หอมสอดไส้

ส่วนผสม

หอมแดงเลือกหัวใหญ่เท่ากัน    ๒๐    หัว

ปล่าช่อนนึ่งแกะเอาแต่เนื้อ        ๑       ตัว

รากผักชี กระเทียม พริกไทย (โขลกรวมกัน)   ๑     ช้อนโต๊ะ

หัวกะทิคั้นด้วยนํ้าปูนใส   ๑     ถ้วยตวง

แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งสาลี           ๑       ถ้วยตวง

เกลือป่น      ๑       ช้อนชา

ไข่เป็ด         ๑       ฟอง

นํ้ามันพืช     ๒      ถ้วยตวง

น้ำเปล่า        ๑       ช้อนโต๊ะ

น้ำปลา         ๑-๒   ช้อนชา

วิธีทำ

๑. ปอกเปลือกหอมแล้วคว้านไส้กลางออก สับส่วนที่คว้านออกให้ละเอียด

๒. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอร้อน ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทยที่โขลก ลงผัดจนหอม ใส่หอมสับ เนื้อปลา น้ำ หัวกะทินิดหน่อย ปรุงรสด้วยนํ้าปลา เกลือป่น ชิมรส พักไว้ให้เย็นจึงค่อยตักใส่ลงในหอมที่คว้านไว้จนแน่นและเต็ม

๓. นวดแป้งกับหัวกะทิเข้าด้วยกัน ค่อยๆ ใส่กะทิทีละช้อน จนเป็นเนื้อเดียวกัน และข้นขนาดนมข้น ใส่ไข่จนละลายเข้ากันดี นวดเป็นเนื้อเดียวกัน

๔. เทนํ้ามันลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน หยิบหอม่ชุบแป้งทอดจนเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้

๕. พริกหยวกสอดไส้

ส่วนผสม

พริกหยวก ๑๕ เม็ด

เนื้อหมูสับละเอียด ๑/๒  กก.

กุ้งนางสับละเอียด  ๑๐ ตัว

กระเทียมพริกไทยโขลกรวมกัน ๑ ช้อนโต๊ะ

ไข่เป็ด ๕ ฟอง

น้ำมันพืช ๑/๔ ถ้วยตวง

น้ำปลา ๑ ๑/๒ ช้อนชา

น้ำตาลทราย ๑ ช้อนชา

วิธีทำ

๑. เคล้าหมู กุ้ง ด้วยเครื่องที่โขลกไว้ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล ต่อยไข่ใส่ ๑ ฟอง นำไปทอดจนสุก

๒. นำส่วนผสมข้อ ๑ บรรจุลงในพริกหยวกที่คว้านไส้ออก นึ่งในลังถึง น้ำเดือดพล่าน ๕ นาที พอเย็นบีบนํ้าออกให้หมด

๓. ต่อยไข่ตีพอแตก ใช้มือชุบไข่แล้วโรยขวางยาวไปมา ในกระทะที่ใส่น้ำมันพอลื่นและใช้ไฟอ่อน สุกแล้วลอกออกเป็นชั้นๆ เย็นแล้วหยิบพริกหยวกวางริมไข่ แล้วม้วนไข่ห่อพริกให้รอบ ทำไปจนหมด พักไว้

๖. หัวผักกาดเค็มผัด

ล้างหัวผักกาดเค็มให้สะอาด แล้วหั่นฝอย ผัดกับไข่ ใส่น้ำตาลทรายให้ออกรสหวาน

๗. ปลาช่อนแห้งผัด

นึ่งปลาช่อนเค็มพอสุก แล้วฉีกให้เป็นฝอย นำนํ้ามันใส่กระทะให้ร้อน ใส่ปลาลงทอดให้กรอบ ใส่น้ำตาลลงผัดให้มีรสหวาน

สูตรนี้สามารถทำอาหารรับประทานได้ ๘ คน

ลักษณะที่ดีของอาหาร ข้าวแช่ เป็นอาหารชุดใหญ่ มีเครื่องประกอบอยู่หลายอย่าง วิธีการทำแม้จะมีเครื่องประกอบหลายอย่าง แต่ถ้าค่อยๆ อ่าน ทำความเข้าใจไป จะรูสึกว่าไม่ยากและจะคุ้มค่ากับเวลาที่ต้องเสียไปในการทำ เพราะอร่อยและไม่ซ้ำซาก แถมมีข้าวหอมๆ รับประทานอีกต่างหาก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

four + seventeen =