อาชีพล่ามเป็นความท้าทายขั้นสุดยอดของคนรักภาษา ถึงแม้จะมีหลายคนเอาคำว่าล่ามไปปนกับนักแปล แต่ที่จริงแล้วงานแปลเป็นงานนั่งโต๊ะ และสามารถจะค่อยๆ ทำค่อยๆ คิดไปได้ แต่ล่ามจะต้องแปลคำพูดที่ได้ยินแบบสดๆ สมองจึงต้องอัดคำศัพท์ไว้แน่นเปรี๊ยะระดับทอล์คกิ้งดิกเดินได้ก็ไม่ปาน
ลักษณะของงาน
ล่ามเป็นคำสั้นๆ แต่สามารถแตกไลน์ได้ 3 สาขาใหญ่ ๆ คือ
ล่ามประจำบริษัท
เป็นคนที่บริษัทจ้างไว้เพื่อให้ช่วยเป็นล่ามเวลามีการประชุม และไปพบลูกค้า โดยมากจะเน้นไปที่ภาษาพิเศษเช่น ภาษาญี่ปุ่น เกาหลี สเปน อาหรับ ส่วนภาษาอังกฤษนั้นตัวเจ้าของบริษัทแทบทุกคนพอจะพูดได้อยู่แล้ว
ล่ามประจำตัว
มักเป็นล่ามที่องค์กรจัดหาล่ามส่งมาให้กับนักธุรกิจที่ต้องการเดินทางไปติดต่อเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเป็นกรณีไป และจะได้รับเงินเป็นจ๊อบ
ล่ามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาล
เวลาศาลไทยจะต้องพิจารณาคดีชาวต่างชาติ จะมีล่ามซึ่งได้รับการรับรองและสอบผ่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านล่ามและการแปลเอกสารของกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว เข้าไปทำหน้าที่ถ่ายทอดภาษาด้วย
กว่าจะมาเป็นล่าม
แน่นอนว่าต้องเรียนปริญญาตรีมาทางภาษา และต้องแตกฉานในระดับที่เหมือนหรือเกือบเหมือนเจ้าของภาษาเลยด้วย ถึงจะสามารถฟังปุ๊บแปลปั๊บได้ทันที นอกจากนี้ควรเข้าฝึกอบรมในโครงการอบรม “หนทางสู่ล่ามมืออาชีพ” ของสถาบันสอนภาษาต่างๆ มาบ้าง เพื่อเรียนรู้ทักษะวิธีทำงานแบบล่ามจริงๆ เช่น เทคนิคพื้นฐานของการเป็นล่าม การจับใจความการประชุม การสรุปเนื้อหา เทคนิคการจดเนื้อเรื่อง เรียนรู้ปัญหาและมารยาทของอาชีพล่าม เป็นต้น
อยากเป็นล่ามต้องทำตัวอย่างไร
– หมั่นฝึกฝนภาษาเฉพาะที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เพราะอย่างที่บอกว่ายุคนี้ใครๆ ก้พูดภาษาอังกฤษได้ ล่ามที่สามารถพูดภาษาอื่นจึงได้เปรียบกว่า ยิ่งถ้าพูดได้หลายภาษา เช่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ในคนๆเดียว ทั้งโอกาสและค่าจ้างก็จะสูงตามไปด้วย
– เก็บความลับให้เป็น ไม่ว่าลูกค้าจะคุยกันเรื่องอะไรต้องทำลืมไปจากสมองให้หมด ห้ามเอาไปบอกต่อเป็นอันขาด เพราะบางทีข้อมูลเล็กๆ ชิ้นเดียวก็อาจทำให้สถานการณ์ทั้งบริษัทพลิกผันได้
– มีไหวพริบ สามารถตีความจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาได้ทันทีและไม่ผิดพลาด คนที่จะเป็นล่ามจึงต้องทันข่าวตลอดเวลา สมมุติว่าเจ้านายสเปนพูดถึงเรื่องการประท้วง เจ้านายอิตาลีคุยกลับถึงข่าวน้ำท่วมที่บาหลี ถ้าล่ามไม่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองเลยก็อาจจะเอ๋อ แปลผิด ๆ ถูก ๆ ได้
รายได้ดีเกินคาด
เป็นอาชีพที่รายได้ดีมาก ๆ ส่วนใหญ่มักสตาร์ทที่ 20,000 บาทขึ้นไป ยิ่งถ้าเคยได้รับทุนไปเรียนต่อทางภาษานั้นๆ ที่ประเทศเจ้าของภาษามาแล้ว เช่นได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น 1 ปี ไปเรียนที่อิตาลี 2 ปี ค่าจ้างจะสตาร์ทกันที่ 3-4 หมื่นบาทเลยทีเดียว ไม่รวมโบนัสและสวัสดิการอีกต่างหาก
ทำงานหนัก
เมื่อเงินเดือนดีงานก็ย่อมต้องเยอะไปด้วย โดยเฉพาะคนที่เป็นล่ามประจำบริษัทมักต้องตระเวนไปกับเจ้านายร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ถ้าเจ้านายไปเลี้ยงลูกค้าถึงห้าทุ่มเที่ยงคืนก็ต้องทน เพราะถ้าคุยกันเองรู้เรื่องบริษัทเขาก็คงจะไม่จ้างคุณมา
หางานจากที่ไหน
บริษัทใหญ่ๆ มักจะจ้างล่ามผ่านทางบริษัทรับจัดหางาน เพื่อให้บริษัทจัดหางานช่วยสกรีนในเบื้องต้นก่อนว่า เรามีความสามารถทางภาษาดี ทำงานให้เขาได้จริงๆ ไม่ใช่ไปสัมภาษณ์แล้วไปนั่งเอ้ออ้าตะกุกตะกัก คนที่อยากเป็นล่ามจึงเพียงแต่ไปทิ้งใบสมัครไว้ตามบริษัทจัดหางาน เดี๋ยวเดียวงานก็เดินทางมาถึงมือเอง