วิธีการดื่มน้ำที่ถูกต้อง

แม้จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า น้ำเปล่ามีความสำคัญกับร่างกาย  แต่มีคนจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญ จะดื่มน้ำเฉพาะเวลาคอแห้ง หรือกระหายเท่านั้น

การดื่มน้ำอย่างไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่เป็นผลดีแล้ว ยังสร้างผลเสียกับสุขภาพอีกด้วย ทั้งโลหิตข้น การไหลเวียนของโลหิตลำบาก หัวใจต้องทำงานหนักในการสูบฉีด ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เมื่อยล้า หัวใจเต้นไม่ปกติ ริมฝีปากแห้ง ผิวหนังหยาบไม่ชุ่มชื่นสดใส ขับถ่ายของเสียไม่สะดวก ท้องผูก ปัสสาวะติดขัด มีสีเหลืองเข้ม เป็นเหตุไตพิการ เป็นต้น

ตามหลักเราควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้วในช่วงเช้าตื่นนอน ควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง 1 แก้ว จะทำให้ขับถ่ายดี ก่อนเข้านอนการดื่มน้ำ 1 แก้ว จะทำให้น้ำไปชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ และกระเพาะอาหาร ถ้าเป็นน้ำอุ่นจะช่วยให้สบายขึ้น และในระหว่างวันให้ดื่มน้ำจนครบตามจำนวน

วิธีการดื่มน้ำที่ถูกต้อง

เราไม่จำเป็นต้องดื่มครั้งละ 2-3 แก้ว ติดต่อกันทันที ค่อย ๆ ดื่มไปเรื่อย ๆ ในระหว่างวัน คนที่ไม่เคยดื่มน้ำมาก ๆ ในครั้งแรกจะรู้สึกคลื่นไส้  เพราะผนังลำไส้และกระเพาะอาหารขยายตัว แต่ต่อไปอาการเหล่านี้จะหายไป และได้ความสดชื่นขึ้นมาแทน แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการปัสสาวะบ่อยขึ้น  ซึ่งจะเป็นผลดีเพราะน้ำจะไปล้างไต  ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องกรองน้ำของร่างกาย

ควรงดดื่มน้ำสักครึ่งชั่วโมงก่อนการรับประทานอาหาร และหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ ก็ไม่ควรดื่มน้ำมาก ๆ ทันที

นิสัยการดื่มน้ำตลอดเวลาของการรับประทานอาหารให้ละทิ้งเสีย เพราะการดื่มน้ำมาก ๆ ทั้งก่อนรับประทาน ระหว่างรับประทาน และหลังรับประทานอาหาร จะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการย่อยต่ำ  หากรู้สึกฝืดคอให้ชดน้ำซุปหรือต้นจืดแทน

ไม่ควรรับประทานอาหารอิ่มจนเกินไป  ควรให้อิ่มพอดีแล้วรับประทานผลไม้สดเพื่อให้คอสะอาด ก่อนจิบน้ำตามเล็กน้อยจะช่วยให้สบายท้อง จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงจึงค่อยดื่มน้ำตามปกติ

เพียงแค่นี้เราก็สามารถมีสุขภาพดีด้วยน้ำเปล่าที่แสนจะธรรมดาแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

3 × five =